วันเสาร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2559

พระ : ธรรมะเป็นหลักใจ


วันนี้เราได้รับความเมตตาจาก หลวงพี่อิศเรศ ในการพูดคุยสนทนาค่ะ

---------------------------------


หลวงพี่, ก่อนอุปสมบทใช้ชีวิตอย่างไรคะ ?

ก่อนบวชก็แนวคิดการใช้ชีวิตเหมือนกับคนอื่นๆ ทั่วๆ ไปคือ 
อยากมีชีวิตที่ดี มีงานดีๆ ทำ มีเงินเยอะๆ อยากไปเที่ยวรอบโลก 
อยากประสบความสำเร็จในชีวิตทุกด้าน ดูแลครอบครัว พ่อ แม่ ให้มีความสุข


อะไรทำให้หลวงพี่สนใจศึกษาธรรมะ/พระพุทธศาสนาคะ?

สิ่งที่ทำให้สนใจพระพุทธศาสนา เริ่มมาจากครอบครัว
เพราะครอบครัวจะเข้าวัดทำบุญเป็นประจำ ตามวิถีของคนต่างจังหวัด
ที่มีความผูกพันธ์กับวัด จึงได้สัมผัสและรู้จักพระพุทธศาสนามาตั้งแต่เด็กๆ 
แต่ก็ไม่ได้รู้ลึกซึ้งอะไรมากในเรื่องคำสอนทางพระพุทธศาสนา


อะไรเป็นแรงบันดาลใจของหลวงพี่ในการอุปสมบทคะ 

ตอนตัดสินใจบวชครั้งแรกตอนนั้นเรียนมหาวิทยาลัย ปีที่ ๑ 
มีความคิดอยากจะบวชตอบแทนพระคุณให้พ่อแม่ 
เพราะตอนเริ่มเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัย 
ก็ได้เริ่มศึกษาพระพุทธศาสนามากขึ้นจากการเข้าร่วมกิจกรรมชมรมพุทธ 
ได้ฟังพระอาจารย์ท่านสอนธรรมะ ต่างๆ มากขึ้น 
เลยทำให้เราได้รู้จักการตอบแทนพระคุณพ่อแม่ 
และ อยากศึกษาธรรมะในพระพุทธศาสนาให้มากขึ้น 
โดยเฉพาะเรื่องการปฎิการบัติธรรม 
ที่ทำให้เราสามารถพัฒนาจิตใจ ความคิด สติปัญญา ของเราให้ดีขึ้น


หลวงพี่,มีความตั้งใจอย่างไร ในการดำรงตนเป็นพระภิกษุคะ ?

          เมื่อบวชแล้วก็มีความตั้งใจจะศึกษาธรรมะ 
ฝึกฝนตนเองตามศีล และ วินัย ของพระ ให้ดีที่สุด 
เพื่อเป็นเนื้อนาบุญให้กับพ่อแม่ และ สืบอายุพระพุทธศาสนา 
รวมถึงตั้งใจจะปฎิบัติธรรมให้เข้าถึงความสุขภายใน 
จะได้นำสิ่งเหล่านี้มาถ่ายทอดให้กับพ่อแม่ และ ญาติโยมท่านอื่นๆ 
ให้เกิดความศรัทธาในพุทธศาสนา


ความเป็นพระ ภาระกิจหน้าที่ของพระ คือ อย่างไร ขอหลวงพี่ช่วยอธิบายสักหน่อยค่ะ?

ภิกษุ ตามภาษา บาลี แปลว่า ผู้ขอ แต่คำว่าผู้ขอในที่นี้ พระพุทธเจ้าท่านอธิบายว่า 
เป็นผู้ขอ ที่ให้ประโยชน์แก่ผู้รับ 
คือ พระภิกษุ ไม่ได้ประกอบอาชีพ หาทรัพย์เพื่อนำมาเลี้ยงชีวิตเหมือนฆราวาส 
แต่จะอาศัยข้าวปลาอาหาร และ ทรัยพ์จากฆราวาส 
ที่ให้ด้วยความศรัทธา มาหล่อเลี้ยงชีวิต เพื่อประกอบความเพียร  
ปฏิบัติเพื่อหนทางสู่มรรคผล นิพพาน โดยไม่ต้องกังวลกับการหาเลี้ยงชีพ 
ผู้ให้ก็จะได้รับประโยชน์หรือผลบุญ จากทานทรัพย์ ที่บริจาคนั้น 

ดังนั้น หน้าที่และภารกิจ ของพระก็คือ 
การพฤติปฎิบัติตนตามหลักพระธรรมวินัย ให้สมบูรณ์ 
และ นำสิ่งเหล่านั้นมาเทศน์สอนให้แก่พุทธบริษัท ให้ตั้งมั่นอยู่ในศีล และ ธรรม 
และช่วยกันทะนุบำรุงพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรือง


ในทัศนะของหลวงพี่, พระพุทธศาสนา ในสังคมไทยปัจจุบันเป็นอย่างไรคะ 

          พุทธศาสนากับวิถีชีวิตของคนในสังคมปัจจุบัน ไม่ค่อยแน่นแฟ้นเหมือนยุคอดีต 
เนื่องจากความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่มากขึ้น ทำให้มีความสะดวกสบายมากขึ้น 
มีความเจริญทางด้านวัตถุมากขึ้น ทำให้วิถีชีวิตของคนปัจจุบันต้องหันไปพึ่งเทคโนโลยีมากขึ้น 
ทำให้ไม่ค่อยสนใจในพุทธศาสนา 
อีกทั้งการหล่อหลอมจากครอบครัวที่เป็นคนรุ่นใหม่ ที่ไม่รู้จักพุทธศาสนา 
ก็เลยไม่ได้ปลูกฝังสิ่งเหล่านี้ให้กับลูกหลาน ใช้เทคโนโลยีในการเลี้ยงดู ทั้งร่ายกาย และ จิตใจ 
ทำให้พุทธศาสนาเป็นเรื่องที่ไกลตัว และ ไม่น่าสนใจ ของคนในสังคมปัจจุบัน

          ความสัมพันธ์ระหว่างพระและ คนในสังคมปัจจุบัน 
ก็ไม่ได้ผูกพันธ์ พึงพาอาศัยกันเหมือนยุคก่อน เพราะในยุคก่อน 
พระจะเป็นศูนย์รวมจิตใจ และ ที่พึ่งทางใจ ให้กับคนสังคม 
พระจึงเป็นที่เคารพ เลื่อมใส เป็นผู้นำทางจิตใจ 
ได้รับการดูแลอุปัฏฐากจากศรัทธาสาธุชนตามกาลสมควรอยู่เป็นนิจ  
แต่ปัจจุบัน คนในสังคมดูแลจิตใจด้วยเทคโนโลยี ไม่ได้ศึกษาธรรมะ  
จึงไม่เห็นประโยชน์จากการต้องเข้าหาพระภิกษุ เพื่อฟังธรรม 
หรือยกระดับจิตใจให้ดีขึ้นด้วยธรรมะ และ ไม่รู้จักคุณธรรมของพระสงฆ์ 
จึงมีการดูถูก ใส่ร้าย ว่ากล่าวพระสงฆ์ เป็นเรื่องปกติ โดยที่ไม่รู้จักบาปบุญคุณโทษ



หลวงพี่คิดว่า
พระพุทธศาสนา/พระภิกษุ มีความจำเป็นในการปรับตัว
 หรือไม่/อย่างไรคะ ?

          พุทธศาสนาเป็นหลักคำสอนที่มีเหตุและผล สามารถนำมาปรับใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัย 
ไร้กาลเวลา เพราะธรรมะ คือ ธรรมชาติ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับโลก 
ไม่ว่าเวลาจะเปลี่ยนไปนานแค่ไหน ธรรมชาติ หรือ ธรรมะ ก็ยังเหมือนเดิม 
ดังนั้นการจะดำเนินชีวิตให้มีความสุขทั้งทางโลกและทางธรรม 
ก็ต้องอาศัยธรรมะเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ เพื่อให้มีแนวทางปฏิบัติ 
ให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อตนเอง และ ผู้อื่น


โลก ณ วันนี้ เป็นโลกแห่งเทคโนโลยีในทุกด้าน หลวงพี่คิดว่า
เราควรนำความก้าวหน้าของเทคโนโลยีมาใช้เพื่องานสอนศีลธรรม อย่างไรคะ
เพราะประเด็นนี้ ถูกมองด้วยสายตาที่ประชาชนไม่เข้าใจ และนำไปสู่ความสงสัย เช่น
ทำไมพระใช้โทรศัพท์ คอมฯ ถูกมองว่าไม่สมถะ เป็นต้น ... ในทัศนะของหลวงพี่คิดอย่างไร
?

          เทคโนโลยี เป็นเครื่องมือที่ทำให้มนุษย์ติดต่อสื่อสารกันได้เร็วขึ้น สะดวกสบาย 
เข้าถึงข่าวสารได้มากขึ้น การใช้เทคโลยี จะมีคุณหรือ มีโทษ ก็ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของผู้ใช้ 

การนำเทคโนโลยีมาในการเผยแพร่ธรรมะ ก็เป็นการใช้เทคโนโลยี ให้เกิดประโยชน์ 
เพราะคนในสังคม ในโลก สามารถเข้าถึงพุทธศาสนาได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น 
พระสงฆ์ ในปัจจุบันก็ต้องปรับตัวใช้เทคโนโลยีในการเผยแพร่ และ สอนศีลธรรม 
เพื่อให้เข้ากับวิถีชีวิตของคนในยุคปัจจุบัน ทำให้ธรรมะเป็นเรื่องที่น่าสนใจขึ้นมาได้ 
ถึงแม้จะใช้เทคโนโลยี แต่แก่นของธรรมะ ก็ยังคงอยู่ ดังนั้นเราจึงต้องมองว่าพระท่านใช้เทคโนโลยี 
เพื่อวัตถุประสงค์อะไร ไม่ควรมอง และ ตัดสิน แต่ภายนอก



ยุคนี้,ผู้คนหันไปให้ค่านิยมทางวัตถุ เมื่อชีวิตเป็นทุกข์ ก็หาทางออกไม่ถูก 
เป็นผลทำให้หลงทำผิด หลวงพี่มีทัศนะอย่างไร กับวิถีชีวิตของผู้คนในปัจจุบันคะ?
หลวงพี่มีคำแนะนำอย่างไรไหมคะ?

          เนื่องจากปัจจุบันมีความเจริญทางด้านวัตถุมาก 
ผู้คนก็ละเลยการพัฒนาความเจริญทางด้านจิตใจ 
เป็นสาเหตุของปัญหาในสังคมมากมายๆ จึงควรมีการส่งเสริม และ สนับสนุนให้คนในสังคม 
ได้หันมาเรียนรู้พุทธศาสนากันให้มากขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาสังคม 

เป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ คือการแก้ที่จิตใจ 
โดยเริ่มจากสถาบันครอบครัว และ โรงเรียน ซึ่งเป็นที่ปลูกฝังคุณธรรม ธรรมะ 
ให้กับคนตั้งแต่เกิด เหมือนกับ คำขวัญ ที่ว่า เยาวชนที่ดี คือ อนาคตที่ดี ของประเทศ


กราบขอบพระคุณ หลวงพี่อิศเรศ


บันทึกคำสนทนา  โดย บัว  อรุโณทัย
24 ธันวาคม 2559 




0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น